ในยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การเรียนออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเรียนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ตามมาคือการติดเกมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน
เนื่องจากการเรียนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทำให้เด็กเข้าถึงเกมออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหา ลูกติดเกม จนกลายเป็นปัญหาระอุที่กระทบทั้งด้านการเรียน สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัว
สาเหตุของปัญหาลูกติดเกมในยุคเรียนออนไลน์
- การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น
การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน เมื่อหมดชั่วโมงเรียน เด็กหลายคนเลือกเล่นเกมออนไลน์ต่อโดยไม่มีการควบคุมจากผู้ปกครอง
- ขาดการกำกับดูแลที่เหมาะสม
ผู้ปกครองบางคนต้องทำงานที่บ้านหรืออยู่นอกบ้าน ไม่มีเวลาตรวจสอบพฤติกรรมของลูก ส่งผลให้เด็กใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ และอาจเผลอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกม
- เกมออนไลน์ที่ดึงดูดใจ
เกมในปัจจุบันถูกออกแบบให้มีกราฟิกสวยงามและเนื้อหาที่สนุกสนาน ทำให้เด็กหลงใหลและอยากเล่นอย่างต่อเนื่อง บางเกมมีการแข่งขันและการสะสมรางวัล ซึ่งกระตุ้นให้เด็กเล่นอย่างไม่หยุดยั้ง
ผลกระทบของการติดเกม
- ผลการเรียนตกต่ำ
เมื่อเด็กให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากกว่าการเรียน ทำให้ขาดสมาธิและไม่ส่งงานตามกำหนดเวลา ส่งผลให้ผลการเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- สุขภาพร่างกายและจิตใจเสื่อมโทรม
การนั่งเล่นเกมเป็นเวลานานโดยไม่พักผ่อน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดตา ปวดหลัง และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การติดเกมยังส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เด็กมีความเครียด ก้าวร้าว และขาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง
- ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลง
เด็กที่ติดเกมมักแยกตัวออกจากครอบครัว และปฏิเสธการทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในบ้าน ความขัดแย้งระหว่างเด็กและผู้ปกครองอาจทวีความรุนแรงเมื่อผู้ปกครองพยายามควบคุมการเล่นเกม
แนวทางแก้ไขปัญหา
- กำหนดเวลาในการใช้อุปกรณ์
ผู้ปกครองควรตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ โดยกำหนดเวลาเล่นเกมให้เหมาะสม เช่น เล่นได้วันละ 1-2 ชั่วโมงหลังทำการบ้านเสร็จ
- สร้างกิจกรรมเสริมที่สร้างสรรค์
ชักชวนให้ลูกทำกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการเล่นเกม เช่น การออกกำลังกาย วาดภาพ ทำอาหาร หรืออ่านหนังสือ เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาอย่างมีประโยชน์และลดความหมกมุ่นกับเกม
- พูดคุยอย่างเข้าใจ
การเปิดใจรับฟังและพูดคุยกับลูกอย่างเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ แทนที่จะดุด่า ผู้ปกครองควรแสดงความห่วงใยและช่วยลูกค้นหาสาเหตุว่าทำไมจึงติดเกม พร้อมทั้งช่วยกันหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
- ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
หากปัญหาการติดเกมรุนแรงและเกินความสามารถของผู้ปกครองในการจัดการ ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือนักบำบัดเพื่อหาวิธีช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
ได้รับการสนับสนุนโดย เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว