ลูกติดเกม ปัญหาระอุ แห่งยุคเรียนออนไลน์  

ในยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การเรียนออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเรียนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ตามมาคือการติดเกมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน

เนื่องจากการเรียนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทำให้เด็กเข้าถึงเกมออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหา ลูกติดเกม จนกลายเป็นปัญหาระอุที่กระทบทั้งด้านการเรียน สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัว  

 

รีวิว 5 จอคอมเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ที่เหล่าเกมเมอร์ต้องมีไว้ใช้ - ChobReview

สาเหตุของปัญหาลูกติดเกมในยุคเรียนออนไลน์  

  1. การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น 

   การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน เมื่อหมดชั่วโมงเรียน เด็กหลายคนเลือกเล่นเกมออนไลน์ต่อโดยไม่มีการควบคุมจากผู้ปกครอง  

  1. ขาดการกำกับดูแลที่เหมาะสม  

   ผู้ปกครองบางคนต้องทำงานที่บ้านหรืออยู่นอกบ้าน ไม่มีเวลาตรวจสอบพฤติกรรมของลูก ส่งผลให้เด็กใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ และอาจเผลอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกม  

  1. เกมออนไลน์ที่ดึงดูดใจ 

   เกมในปัจจุบันถูกออกแบบให้มีกราฟิกสวยงามและเนื้อหาที่สนุกสนาน ทำให้เด็กหลงใหลและอยากเล่นอย่างต่อเนื่อง บางเกมมีการแข่งขันและการสะสมรางวัล ซึ่งกระตุ้นให้เด็กเล่นอย่างไม่หยุดยั้ง  

 

ผลกระทบของการติดเกม  

  1. ผลการเรียนตกต่ำ  

   เมื่อเด็กให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากกว่าการเรียน ทำให้ขาดสมาธิและไม่ส่งงานตามกำหนดเวลา ส่งผลให้ผลการเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด  

  1. สุขภาพร่างกายและจิตใจเสื่อมโทรม  

   การนั่งเล่นเกมเป็นเวลานานโดยไม่พักผ่อน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดตา ปวดหลัง และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การติดเกมยังส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เด็กมีความเครียด ก้าวร้าว และขาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง  

  1. ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลง 

   เด็กที่ติดเกมมักแยกตัวออกจากครอบครัว และปฏิเสธการทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในบ้าน ความขัดแย้งระหว่างเด็กและผู้ปกครองอาจทวีความรุนแรงเมื่อผู้ปกครองพยายามควบคุมการเล่นเกม  

 

 แนวทางแก้ไขปัญหา  

  1. กำหนดเวลาในการใช้อุปกรณ์  

   ผู้ปกครองควรตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ โดยกำหนดเวลาเล่นเกมให้เหมาะสม เช่น เล่นได้วันละ 1-2 ชั่วโมงหลังทำการบ้านเสร็จ  

  1. สร้างกิจกรรมเสริมที่สร้างสรรค์ 

   ชักชวนให้ลูกทำกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการเล่นเกม เช่น การออกกำลังกาย วาดภาพ ทำอาหาร หรืออ่านหนังสือ เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาอย่างมีประโยชน์และลดความหมกมุ่นกับเกม  

  1. พูดคุยอย่างเข้าใจ 

   การเปิดใจรับฟังและพูดคุยกับลูกอย่างเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ แทนที่จะดุด่า ผู้ปกครองควรแสดงความห่วงใยและช่วยลูกค้นหาสาเหตุว่าทำไมจึงติดเกม พร้อมทั้งช่วยกันหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม  

  1. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ 

   หากปัญหาการติดเกมรุนแรงและเกินความสามารถของผู้ปกครองในการจัดการ ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือนักบำบัดเพื่อหาวิธีช่วยเหลืออย่างเหมาะสม 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว

Proudly powered by WordPress | Theme: Nomad Blog by Crimson Themes.